บทที่ 3 2
“แล้วคิดว่ายังไง ได้ผลหรือเปล่า”
ถูกถามตรง ๆ เขาก็ถึงกับไปไม่เป็น ใจกระสับกระส่ายหวั่นไหวเมื่อยามได้กลิ่นหอมคุ้นเคยของน้ำหอมราคาแพงแต่เกร่อ ที่ผสมกับกลิ่นเฉพาะตัวของเซลีนกลับให้อารมณ์แตกต่าง ทำให้องศานึกถึงนางฟ้าปีกบางอ่อนหวาน ยั่วเย้าแรงปรารถนาทว่านั่งอยู่กลางไฟร้อนที่พร้อมแผดเผารอบกายให้กลายเป็นเถ้า
เจ้าหล่อนดูอันตรายเหลือเกิน ไม่เข้าใจเหตุใดไม่งัดโหมดนี้มามัดใจเขาตั้งแต่แรก หรือเป็นอย่างที่โบราณว่าไว้ ว่าเราจะรู้ค่าของอะไรก็ตามเมื่อเสียมันไป
“ไม่เลย!”
“...”
“มันช้าเกินไป”
เธอยักไหล่
“ก็อย่างที่บอก นี่เพิ่งวันแรก อย่าเพิ่งตัดสินอะไรเลย”
ใจหนึ่งเขาไม่เชื่อว่าเธอจะทำได้ เขาทำกับเธอขนาดนั้น จะไม่โกรธไม่แค้นเหรอ จะให้อภัยเขาที่นอกใจพาชู้มานอนถึงเตียงเธอเหรอ ถ้าทำได้จิตใจเธอก็น่ายกย่องเกินไปแล้ว แต่ก็นั่นแหละ... ไม่ว่าเธอจะทำได้หรือไม่ได้เขาก็ได้ประโยชน์ทุกทาง
“แต่จะบอกให้รู้ไว้นะ ยังไงก็เปลี่ยนใจฉันไม่ได้ ตอนนี้ฉันชอบแอ้มมากกว่าเธอเป็นล้านเท่า เพราะงั้นเธออย่าหวังให้มันมากนัก ระวังจะเสียใจทีหลัง แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
“ฉันเลิกหวังแล้วแหละ” แกล้งทำหน้าเศร้า ๆ ความจริงก็เจ็บ เพียงแต่เธอเลิกคร่ำครวญเหมือนผู้หญิงจนตรอก “ฉันขอแค่ได้อยู่กับนาย ได้ทำให้มันเป็นชีวิตคู่จริง ๆ แค่นี้ก็พอใจแล้ว” เธอเค้นน้ำตาออกมาได้หยดหนึ่งด้วย
หัวใจเขากระตุกวูบ เสมือนไอชื้นของน้ำตาปลิวกระทบใจพลันมือที่รวบข้อแขนเซลีนไว้คลายออกช้า ๆ ปล่อยให้เธอประคองใบหน้า จมจ่อมและถูกตรึงไว้กับดวงตาระยับพราว ฟังน้ำเสียงหวานซึ้งเอื้อนเอ่ยราวกับจริงใจเหลือเกิน
“ฉันรักนายนะ” นี่เป็นเรื่องจริง แต่ที่จริงยิ่งกว่าคือเธอทั้งแค้นและเกลียดเขามากกว่า “ฉันขอใช้เวลาสามเดือนสุดท้ายของเราทำให้มันออกมาดีที่สุด นายอย่าได้สงสัยอะไรในตัวฉันเลย”
“...”
“ฉันน่ะ... ขอแค่ได้อยู่กับนายก็มีความสุขที่สุดแล้ว”
ลำคอขององศาแห้งผากกับแววตาเว้าวอนอ่อนหวาน เซลีนหลุบตามองริมฝีปากของเขา ก่อนขยับใบหน้าเข้าไปชิดใกล้ ชายหนุ่มหัวใจเต้นรัว พ่ายแพ้ให้ความอ่อนละมุนยับเยิน เผยอเรียวปากรอรับจุมพิตอ่อนหวาน ทว่ากลีบปากสวยสะกดใจกลับจรดลงกับผิวแก้มเขาเสียอย่างนั้น เพิ่งรู้ว่าเซลีนเป็นผู้หญิงคาดเดายากขนาดนี้
“หวังว่านายจะไม่ใจร้ายจนเกินไปใช่ไหม”
น่าสมเพชสิ้นดีเซลีน ต้องมาขอความรักจากผู้ชาย แถมผู้ชายคนนั้นก็ไม่มีค่าคู่ควรเลยเนี่ยนะ แต่อย่างไรเธอก็ต้องทน ดอกผลงดงามมักเกิดจากความอดทนเสมอ ท่องไว้!
พอเห็นน้ำตากับหน้าเศร้า ๆ ไหนจะน้ำเสียงอ้อนวอน องศาก็ใจอ่อน ยอมปล่อยเธอไปนั่งที่ตัวเอง เซลีนรินไวน์ให้เขาดื่มแกล้มสเต๊กที่เธอปรุงสุดฝีมือ
“สถานการณ์แบบนี้ นายยังยอมอยู่ทานข้าวกับฉันอีก ฉันไม่มีอะไรจะตอบแทนนายนอกจากทำอาหารสุดฝีมือเพื่อนายโดยเฉพาะเลย”
เดิมทีเขาก็ไม่อยากอยู่ แต่ไม่อยากทำอะไรที่เสี่ยงให้คลิปหลุด แล้วเย็นนี้จะออกไปทานกับแอ้มก็คงจะเสียอารมณ์ไปอีก อย่างน้อยอยู่บ้านกับเซลีนก็สบายใจกว่า แต่ลึกลงไปในจิตใจ จูบแรกที่มีด้วยกันเมื่อเช้าทำให้เขารอคอยบางอย่างจากเธออย่างมีความหวัง
“อร่อยไหม” เธอถามหลังจากเขาหั่นเนื้อเข้าปาก สีหน้าเขาพึงพอใจ ความขึ้งเคืองเล็ก ๆ ที่มีต่อเธอหายไปเพราะเนื้อวากิวคลุกขยะแท้ ๆ
“ใช้ได้”
“ชิมซุปสิ”
เขาตักซุปเนื้อเข้าปาก รสมือเธอสู้เชฟโรงแรมดัง ๆ ได้เลยทีเดียว แถมการได้นั่งทานอาหารไปพลางจ้องเรือนร่างเธอไปพลางแบบนี้ทำให้เขาเจริญอาหาร
“แล้วเธอล่ะ แค่สลัดจะอิ่มเหรอ”
“โอย” เธอโบกมือไหว ๆ “ช่วงนี้ฉันไดเอทน่ะ นายไม่กลับบ้านบ่อย นายไม่รู้ละสิ”
เขามองหน้าเธอ พอประเมินได้ว่าเธอแค่บอกเล่าไม่ใช่ประชดประชันก็จัดการอาหารอร่อยระดับห้าดาวต่ออย่างเอร็ดอร่อย
“กินเยอะ ๆ นะ”
เซลีนมองเขาซดซุปเนื้อเหลือเดนสุนัขด้วยแววตาสาแก่ใจ กินไม่เลือกยิ่งกว่าหมามันก็ต้องกินข้าวของหมาแบบนี้นี่แหละถึงจะสาสม
การนอนร่วมเตียงกับเขาหลังจากเห็นภาพบาดตาบาดใจแถมได้รู้ความในใจที่เขาเก็บงำมันให้ความรู้สึกที่แปลกไป แต่อย่างไรก็ตามเธอจะไม่ปอดแหกหรอก เซลีนเปลี่ยนไปสวมชุดนอนสีขาวขึ้นไปนอนบนเตียงที่องศานั่งอ่านหนังสือพันธุศาสตร์อยู่ เห็นว่าคนไข้รายหนึ่งของเขามีจีเนติกมิวเตชันซึ่งต่อต้านยาระงับปวดมะเร็ง ทำให้เกิดอาการตกเลือดภายในช่องท้องจนช็อก ทีมเขาเลยต้องหาวิธีรักษาที่เข้ากันที่สุด
“จะนอนแล้วเหรอ” เขากระชากผ้าห่มออก
ตั้งแต่แต่งงานเวลานอนเธอจะสวมเสื้อกันหนาว แต่วันนี้เลือกยั่วยวนเขาโต้ง ๆ แบบนี้มันน่านัก แถมเมื่อกี้ก็ไม่ทันมองส่วนเว้าส่วนโค้งภายใต้ชุดนอนเนื้อบางเบานั่นเลย เขาไม่ยอมหรอก
“อื้อ ฝันดีนะ”
เซลีนนอนตะแคงเท้าแขน จ้องตาหวานเยิ้ม เขาไล่สายตามองไหล่นวลเนียนที่เขาแทบไม่เคยได้เห็นเรื่อยลงมายังเนินอกขาวผ่อง ไม่บอกก็รู้ว่าเธอโนบรา ความรู้สึกบางอย่างโหมกระเพื่อมตรงอกซ้ายขององศา เขาไม่อยากศึกษาแล้วพันธุศาสตร์ อยากสืบพันธุ์มากกว่า
“ว้าย” เธอถูกสามีกระชากเธอเข้าไปใกล้ แล้วกดลงกับเตียงโดยตรึงแขนทั้งสองข้างไว้ หัวใจเซลีนเต้นตึกตัก เธอเกลียดเขาแต่ก็เกลียดตัวเองไม่ต่างกันที่หัวใจมันไหวหวั่นจนสั่นคลอนความตั้งมั่นที่มี
“ถามหน่อย”
“ว่า”
“เธอนอนข้างผู้ชายแซ่บ ๆ อย่างฉันเนี่ย อดใจไหวได้ยังไง”
เซลีนได้ฟังแล้วอยากหัวเราะ คนอะไรหลงตัวเองฉิบหาย แต่เธอต้องคีปลุคไว้ เป็นเซลีนแสนดีอ่อนหวานและตามใจผัว
“ฉันห้ามใจแทบตายเลยแหละ” ตอบเสียงแผ่วเบา ดวงตาหวานเชื่อมไล่มองใบหน้าเขาตั้งแต่คิ้ว ดวงตา จมูก และปากหมา ๆ ที่น่าเอาสากกระเบือยัดสักที “แค่เห็นหน้านาย ฉันก็อยากพลีกายให้นายจะแย่”
ฟังแล้วองศาก็รู้สึกฮึกเหิม เธอไม่บอกเขามาก่อน ไม่อย่างนั้นคงจัดหนักให้ทั้งวันทั้งคืน จนลืมเรื่องการเมืองบ้า ๆ นั่นไปเลย
“แอบแรดเหมือนกันนะเราอะ”
หญิงสาวหน้าแดงก่ำทำเหมือนกับว่าเขิน แต่จริง ๆ แล้วเซลีนกำลังโกรธอยู่ เขาว่าเธอแรดไม่ดูตัวเอง ทั้งแรดทั้งร่านไปคบชู้แถมพามากินตับบนเตียงนี้อีก
“ก็นายเร้าใจซะขนาดนี้ ใครจะต้านทานไหว”
“แล้วเล่นตัวทำไม” จมูกสันเป็นคมโน้มลงมาคลอเคลียพวงแก้มนุ่มละมุน คืนนี้เธอตัวหอมกว่าสามร้อยหกสิบห้าคืนที่นอนด้วยกันเสียอีก แวบหนึ่งเขาทบทวนตัวเอง หลายร้อยคืนที่ผ่านมาเขาพลาดอะไรไปหรือเปล่า แน่นอน เขาพลาดที่จะได้ลิ้มชิมภรรยาเพราะเงื่อนไขไร้สาระ จนเขาเริ่มเบื่อ พานมาด้อยค่าตัวเอง หงุดหงิดเธอ และไม่ว่าอะไรที่เซลีนทำมันก็ดูขวางหูขวางตา หากอึดอัดมากกว่าที่ต้องแสร้งว่าไม่เป็นไร จนในที่สุดเขาก็ไม่สนใจอะไรนอกจากหาความสุขใส่ตัว
ในเมื่อเมียไม่ให้ คนอื่นมีถมไป แถมคนอื่นที่ว่าก็น่าตื่นตาตื่นใจมากกว่ามานอนตัวแข็งอยู่ข้าง ๆ เมียโลกสวย แล้วถ้าเมียรับไม่ได้ก็แค่เลิกเมีย เขาคิดง่าย ๆ แค่นั้นเลย
“องศา ฉันจั๊กจี้อะ” เซลีนแสร้งทำเป็นเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสหวามไหว ครางรับในลำคอเสียงแผ่วตอนที่เขาเปลี่ยนมาเป็นซุกไซ้ซอกคอ
“ตอบคำถามมาสิ” เขาเงยหน้าขึ้นมาเลิกคิ้วมอง
“ก็บอกแล้วไง ว่าไม่อยากให้เป็นการเมือง”
เธอตอบตามตรง ตอนแรกพ่อเตือนแล้วว่ามันอาจจะเกี่ยวกัน แต่เธอเลือกเชื่อในตัวองศา ที่ผ่านมาถึงจะเห็นกันเป็นคู่แข่งเขาก็ไม่เคยกลั่นแกล้ง ตรงกันข้ามเขาช่วยเหลือเธอ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ แต่คือมิตรภาพ ทว่าเธอก็ไม่ได้ใกล้ชิดกับเขามากนัก เห็นกันแต่เด็กแถมทำงานด้วยกันก็จริง แต่ไม่ได้สนิทกัน นอกจากพูดคุยเรื่องการรักษา ต่างคนก็ไปมีโลกของตัวเอง มันเลยเป็นความสัมพันธ์แบบผิวเผิน ถึงได้ไม่คิดว่าเขาจะเป็นผู้ชายเลวร้ายมักมากแบบนี้ไง แถมสารภาพออกมาหน้าด้าน ๆ ด้วยว่าจำใจแต่งงานก็เพื่อผลประโยชน์
“ไม่ว่าจะยังไงมันก็คือการเมือง เซลีน”
“...”
“เพราะถ้าฉันรักฉันชอบเธอจริง ๆ ฉันจีบเธอไปนานแล้ว ไม่ต้องรอให้ลุงฉันกับพ่อเธอมีเรื่องกันหรอก”
“...”
“ฉันไม่เคยรู้สึกชอบเธอเลย จริงอยู่นะ เธอเป็นผู้หญิงที่ทั้งเก่ง ทั้งฉลาด แต่เธอดันมาโง่เรื่องความรัก เธอเชื่อจริง ๆ เหรอว่าผู้ชายอย่างฉันจะรักผู้หญิงอย่างเธอ แค่ฝืนอยู่ด้วยกันมาเป็นปี ฉันก็กระอักกระอ่วนจะอ้วกเต็มแก่ สเปกฉันต้องอย่างแอ้มโน่น”
เซลีนหน้าร้อนฉ่า ผู้ชายบ้าอะไรวะโคตรหลงตัวเองเลย แถมยังตอแหลว่าเป็นสุภาพบุรุษมาได้ตั้งปีกว่า ถ้าทำไม่ได้ก็บอกไม่ได้ตั้งแต่แรกจะได้แยกย้าย แต่กลับให้ความหวังกันมานมนาน ให้ตาย! เธออยากกรี๊ด เธอไม่เคยเกลียดใครมากเท่านี้ เลยนึกสงสัยว่าตัวเองจะเก็บกลั้นความโกรธได้สักแค่ไหนถึงจะไม่พลั้งมือฆ่าเขาตาย
“...”
“ฉันแปลกใจมากที่เธอมองข้ามจุดนั้นแล้วมาแต่งงานกับฉันน่ะ แต่คิดดูอีกที ใครจะต้านทานความเร้าใจของฉันไหว จริงไหม?”
เธอกำหมัดแน่น เจ็บแต่ต้องฝืนยิ้มให้เขา แกล้งแสดงให้เห็นว่าเธอรับได้ ทั้งที่อยากฉีดยาสลบแล้วเอามีดผ่าอกคว้านตับไตเขาออกมาทำเป็นฟัวกราส์เนื้อคนให้เข็ด
“คงงั้น เป็นฉันเองที่อยากเล่นกับไฟ แต่ไม่เป็นไรหรอก ไม่ว่าการเมืองหรือไม่การเมือง ฉันก็อยากอยู่กับนาย”
ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัย ก่อนฉกใบหน้าลงไปประกบเรียวปากสวย ดูดกลืนความนุ่มละมุนราวกับขนมปังตัดขอบ ไม่รู้เพราะอะไรหลังจูบแรกเมื่อตอนกลางวันเขาก็อยากจูบเธออีกหลาย ๆ ครั้ง
เซลีนเผยอปากรับลิ้นร้อนให้สอดเข้ามา จูบของเขาเร่าร้อนจนทำให้ร่างกายเธออ่อนยวบเหมือนเทียนที่หลอมละลาย แบบนี้สินะถึงได้มั่นใจในตัวเองนักว่าผู้หญิงจะรักจะหลง
หึ! หลังจากเห็นภาพเมื่อวานแล้วบอกเลยว่าหลงไม่ลง
มือใหญ่ที่ตรึงแขนเธอไว้เลื่อนมาประคองใบหน้าเธอไว้ เซลีนจึงวางมือกุมท้ายทอยเขา กระชับเรือนผมเขาแรงทีเดียวเพื่อบังคับให้ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนไหวตามใจเธอ พอได้เป็นฝ่ายคุมเกมหญิงสาวกัดริมฝีปากล่างของเขาไม่แรงเท่าไหร่นัก เธอรั้งเขาออกแต่ก็ตามไปจูบคล้ายจะยั่วยวน เธอรู้สึกถึงแรงขัดขืนต่อต้านทว่าเธอรั้งเขาเข้ามา
องศาแทบขาดอากาศหายใจ ไม่คิดว่าเธอจะจูบเก่งขนาดนี้ แถมรสจูบก็หวานล้ำน่าติดใจ แม่นางฟ้าในปีกบางกำลังใช้กรงไฟกักขังและแผดเผาจนเขาเจียนมอดไหม้ ชักไม่มั่นใจแล้วว่าหากลึกซึ้งกันไปมากกว่านี้เขาจะบอกตัวเองไม่ให้หวงแหนเธอได้ไหม เพราะเขาไม่เคยแบ่งของตัวเองให้ใครเสียด้วยสิ
แต่อย่างยัยนี่มันจะน่าหวงขนาดนั้นเลยเหรอ หวังว่าคงไม่แข็งเหมือนท่อนไม้ตอนเขาเมกเลิฟนะ องศาพยายามจะควบคุมเธออีกครั้งทว่าหนนี้หญิงสาวผละออกแล้วแกล้งหาว
“ห๊าว... ง่วงจังเลย”
เรียวปากอวบอิ่มฉ่ำเยิ้มแต่น้อยกว่าดวงตา เขาถูกเผาครอกอยู่ข้างกายแต่หญิงสาวยิ่งกว่าใจร้ายไม่ยอมมอบความตายอันแสนหวานกลับหยิบยื่นความทรมานด้วยราคะที่ร้าวรานกว่าแผลพุพอง องศากระชากชุดนอนของเธอจนฉีก เผยให้เห็นเนินอกสวยและเรือนร่างสมส่วนน่ามอง เซลีนหัวใจแทบวายทว่าไม่ยอมเสียอาการ ไม่ตกใจหรือโวยวาย เพียงแค่รั้งมือที่กำลังจะจัดการกับเสื้อในเอาไว้
“ทำไม” ดวงตาองศาเจือแววไม่พอใจ “ไม่อยากเล่นกับไฟสมใจเธอเหรอ”
ด้วยการนอนกับเขาเนี่ยนะ?
เซลีนเยาะเขาในใจ ไม่มีอะไรโง่เง่ากว่าความทะนงตัวและดูหมิ่นคนอื่นที่เขาแทบไม่รู้จัก ใช่จะมีแต่เขาที่เสแสร้ง เธอเองก็แสร้งเป็นคนที่เขาคิดมาตลอดเหมือนกัน จริงอยู่เธอเห็นแก่ตัวเพราะไม่อยากเสียเขาไป แต่มันเทียบกับคำลวงที่เขาพร่ำและความระยำที่เขาทำไม่ได้เลย
เซลีนระบายยิ้มแต่แวบหนึ่งแววเจ็บแค้นวาบเข้ามาในดวงตา ทว่าจรดกลีบปากนุ่มบนหลังมือเขาอย่างเว้าวอน พัดพาความปรารถนาที่เธอเองเป็นคนผลักไสให้เข้ามากล้ำกรายหัวใจราวไอเย็นจากแผ่นน้ำแข็งมหึมาจนเขาร้าวลึกทรมาน
“ฉันเป็นเมนส์”
องศานิ่วหน้า แตกสลายอย่างสิ้นหวัง ขณะเดียวกันชักสงสัย วันนี้เซลีนทั้งเย้าหยอกและหลอกล่อเพื่อพาเขามาอยู่ในจุดนี้แล้วปล่อยให้เขาลงเอยลอยคว้าง แท้จริงแล้วเธอคิดอะไรอยู่ แต่เซลีนไม่ปล่อยให้เขาคิดนาน เธอรั้งมือเขาลงไปสัมผัสกลางหว่างขา องศาตกใจเกือบดึงมือออก
“ไม่ต้องตกใจ” เธอบอก “มันไม่เลอะ ฉันแค่ให้นายจับดูว่าฉันใส่ผ้าอนามัย ไม่ได้โกหกนายเพื่อเอาตัวรอดจริง ๆ”
“ไม่ได้กลัวเลอะ”
แต่เขากลัวเธอ… องศาลอบกลืนน้ำลายลงคอ ก้อนเนื้อในอกซ้ายเต้นแรงคล้ายจะทะลุออกมาให้เขาอับอาย
ถ้าเป็นแอ้มเขาคงไม่ตกใจ องศาไม่เคยเห็นเซลีนในมุมนี้ ใจกล้า ก๋ากั่น เจนจัดแทบเป็นคนละคน หรือเพราะเธอไม่เคยอยู่ในสายตาเขาจึงไม่ใส่ใจจะเรียนรู้ให้ลึกซึ้ง ด่วนตัดสินจากด้วยเห็นกันมาตั้งแต่ตัวจ้อยว่าเป็นผู้หญิงเรียบร้อยติดจะทึนทึก ด้วยสไตล์การแต่งตัวที่มิดชิดจนแม่ชียังอาย ซ้ำร้ายยังไม่แต่งหน้า แม้ใบหน้าเธอจะสวยหวานกินขาดแถมกิริยามารยาทงดงามแต่ทุกอย่างรอบตัวเธอมันช่างจืดชืด แม้กระทั่งรูปแบบการทำงานหรือการดำเนินชีวิต
บางทีที่เซลีนขอเวลาศึกษากันทั้งที่จะล้มเลิกงานแต่งงานก็ได้ในเมื่อเธอสงสัยในตัวเขา มันก็อาจจะเพื่อประโยชน์ของเขาล้วน ๆ ก็ได้ เพราะเท่าที่เห็นเขาประเมินเธอต่ำไปมากทีเดียว
“อยากฝ่าไฟแดงมะ น่าสนุกดีนะ” เธอกระซิบ รู้ดีว่าถึงเขาจะสกปรกที่กินไม่เลือกหน้าแต่เราต่างเป็นหมอ สิ่งที่กลัวอย่างหนึ่งคือเชื้อโรค
“บ้าเหรอ”
เขาผละออก นอนข้างกายเอามือก่ายหน้าผากอย่างแสนเสียดาย อารมณ์กลัดมันปั่นป่วนเพราะจูบเมื่อครู่ที่เป็นยิ่งกว่าไฟนรกแผดเผาอยู่ในอก ต้องระบายกับน้องนางทั้งห้าอีกแล้วใช่ไหม
“จะไปไหน” คว้าแขนเรียวเล็กของคนที่จะลุกจากเตียงเอาไว้
“ไปเปลี่ยนชุดไง แบบนี้มันเกะกะ ฉันนอนไม่ได้”
เขาพยักหน้า แต่ไม่ยอมปล่อย “ออรัลให้หน่อยสิ”
“???”
“ได้ยินมะ อมนกให้หน่อย ท่าทางแบบนี้น่าจะทำเป็น”
“ก็...” เธอกลืนน้ำลายลงคอ อุตส่าห์ลงทุนใส่ผ้าอนามัยทั้งที่ไม่ใช่วันนั้นของเดือน จะมาเสียซิงปากให้เขาไม่ได้เชียวนะ แต่อย่ามาเสียอาการตอนนี้นะยัยเซลีน “เป็นน่ะเป็น แต่ฟันผุ นายไม่กลัวฉันจะทำให้ดุ้นนายเป็นแผลเหรอ”
เป็นแผลก็ติดเชื้อ ติดเชื้อเสร็จก็คงเน่า เผลอ ๆ อาจจะได้ตัด ไม่ก็ถ้าติดเชื้อในกระแสเลือดก็มีโอกาสตาย เขาจะเอาชีวิตกับความสุขทางเพศมาเสี่ยงไหมล่ะ แน่นอนว่าไม่...
องศาเอ๊ย นอนกระดอแข็งต่อไปนั่นแหละนะ
ด้านองศาใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนผุดลุกไปค้นถุงยางอนามัยที่ตู้ข้างเตียง เขาจำได้ว่ายังเหลืออีกเยอะ วันก่อนใช้กับแอ้มแค่ซองเดียว
“บ้าฉิบ”
เซลีนยกยิ้มมุมปาก เป็นเธอเองที่เอามันไปทิ้ง จะให้ใช้ปากกับเขาผ่านถุงยางอนามัยงั้นเหรอ ไม่มีทางซะหรอก แต่แล้วเธอก็ต้องกรีดร้องเมื่อองศากระชากเธอลงไปกดกับที่นอนอีกครั้ง มือข้างหนึ่งกดเธอไว้ มืออีกข้างถลกกางเกงตัวเองแล้วควักเอาท่อนเนื้อทรงพลังนั้นออกมา
แม้เจ้าโว้ย! เซลีนเบิกตาโพลงเพราะตกใจสุดขีด
“องศา นะ... นายจะฝ่าไฟแดงเหรอ” ไม่นะ... มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ
“เงียบ!”
เสียงเข้มขึ้งทว่าขาดห้วง แล้วใบหน้านั้นก็ฉกลงมาซุกไซ้ทรวงอกของเธอพร้อม ๆ กับใช้มือช่วงตัวเองไปด้วย สมองเขามึนตื้อเพราะแรงปรารถนา ผิวเนื้อนุ่มนิ่มเหมือนกำลังเรียกร้องให้เขาลิ้มชิม แต่เขายิ่งกว่าแมวหิวโซ มีปลาย่างชิ้นโตอยู่ตรงหน้าก็งาบไม่ได้ ได้เพียงกลืนน้ำลายแล้วจินตนาการว่ารสชาติของมันเอร็ดอร่อยแค่ไหน
“ครางหน่อย”
อะไรนะ!
“บอกให้ครางหน่อย” เขาย้ำเมื่อเธอเงียบ เซลีนหลับตาลง ผ่อนลมหายใจแล้วลืมตาขึ้นเมื่อหลีกหนีไม่พ้น
“อ๊ะ!”
“ขอแบบเร้าใจ ๆ”
“อ๊า... ที่รักขา เอาอีกค่ะ จะเสร็จแล้วค่ะ”
ข้อดีของการดูหนังโป๊ของสาวซิงก็คงจะมีประมาณนี้แหละนะ เซลีนสวมวิญญาณสาวน้อยร้อนรักสไตล์ญี่ปุ่นส่งเสียงครางกระเส่า มันเสมือนน้ำมันที่ราดรดบนกองไฟ โหมกระพือเปลวเพลิงด้วยมรสุมสวาท เร่งเร้าให้องศาใกล้ถึงปลายทาง
องศาเงยหน้าจากทรวงอกอวบหยุ่นของเธอแล้วออกแรงชักขึ้นชักลงถี่รัว ผิวกายเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือกทั้งหน้าทั้งคอ เส้นเอ็นที่คอก็เกร็งจนพากันยกขึ้น เซลีนยอมรับว่าองศาในเวลานี้ดูเซ็กซี่และเร่าร้อนโดยไม่ต้องพยายาม
แต่มันก็เท่านั้น... อย่าคิดว่านี่จะทำให้เธอลืมสิ่งที่เขาทำได้
ถึงแม้จะโกหกว่าเป็นวันนั้นของเดือน แต่เธอต้องรับมือกับไอ้หื่นกามอยู่แบบนั้นหลายวัน ซ้ำร้ายองศามักตื่นกลางดึกค้นหามือถือเธอหวังลบคลิปเจ้าปัญหา แต่ที่ปวดใจยิ่งกว่าคือเขาโทร.คุยกับชู้รักกระหนุงกระหนิงข้างกายเธอ
มันจะมากเกินแล้ว!
คิดเหรอว่าเธอจะปล่อยให้เขาไปมีความสุขกับมันง่าย ๆ
+ + +
ภาพที่องศานั่งสัปหงกพารอยยิ้มสาแก่ใจปรากฏบนมุมปากของเซลีน ยากล่อมประสาทที่เธอผสมในอาหารให้เขากินทุกวันก่อนไปทำงานทำให้ภาพพจน์เขาเสียหาย ไปถึงเขาก็นั่งหลับ เคสผ่าตัดก็ต้องให้แพทย์คนอื่นทำแทนเพราะสภาพร่างกายไม่พร้อม ประชุมกับลูกทีมยังไม่มีสมาธิ แค่งานจุกจิกเช่นส่งตัวอย่างชิ้นเนื้อให้ฝ่ายพยาธิวิทยาเขายังหลงทางไปไม่ถูก จนลุงโอบต้องมาเตือน ซึ่งองศาก็ไม่ทราบสาเหตุจนวันนี้เขาต้องกลับมาพักที่บ้าน เผื่อจะดีขึ้นถ้ามันเกิดจากการเหนื่อยสะสม ตอนเย็นจะได้มีแรงไปงานระดมทุนผู้ป่วย SLE ต่อ
“ไหวเปล่าบี๋”
คำเรียกแทนว่า ‘บี๋’ หวานจนเกินต้านทำให้องศาในชุดสูทสวมเครื่องประดับในแบบผู้ชายมีคลาสแต่กลับนั่งหลับขณะสวมรองเท้างัวเงียได้สติ มองดวงหน้าสวยเพริศด้วยเครื่องสำอางแบบจัดเต็มก็อิ่มเอมใจแปลก ๆ
“ได้กาแฟสักแก้วคงดี”
“เดี๋ยวไปชงมาให้นะ”
เซลีนเดินโหย่งตัวไม่ถนัดเพราะรองเท้าส้นเข็มสูงตั้งเจ็ดนิ้ว เขามองตามเรือนร่างเย้ายวนด้วยรอยยิ้มในหน้า เดรสสีแดงถูกตัดเย็บและออกแบบอย่างดีเพื่อเสริมรูปร่างเธอให้สวยสง่า ยิ่งกว่าดาราที่หลุดออกมาจากงานประกาศรางวัล ครู่เดียวเธอก็เดินออกมา เรียกได้ว่าทำเขาตะลึงพรึงเพริด ชุดของเธอคว้านลึกจนเห็นสะดือ แต่ตรงอกมีเข็มกลัดสีดำทันสมัยติดให้ผ้าทั้งสองด้านเข้าหากันเพื่อปิดร่องอก กระนั้นเขาก็จินตนาการไปได้ถึงไหนต่อไหน
นับประสาอะไรกับผู้ชายคนอื่น
“รีบกินสิบี๋ เดี๋ยวไม่ทันนะ”
“ถอดเสื้อคลุมออกซิ” คนที่ถือแก้วกาแฟแล้วนิ่งมองเธอทำตาดุออกคำสั่ง เซลีนนึกขันแต่ปั้นหน้าใสซื่อ ค่อย ๆ ปลดเสื้อคลุมออก เผยให้เห็นเดรสด้านบนซึ่งใช้ผ้าแถบเท่าฝ่ามือเย็บกับตะเข็บเอวเป็นบ่วงคล้องคอ เน้นเปลือยทุกส่วนยกเว้นสองเต้างาม
“เธอจะบ้าเหรอ ใครใช้ให้ใส่ชุดแบบนี้”
“ทำไมล่ะ มันไม่สวยเหรอ”
“น่าเกลียด” เขาหมายถึงคนในงานคงจ้องเธอเป็นมันด้วยสายตาน่าเกลียดและเขาคงเกลียดพวกมันจนอยากเข้าไปตั๊นหน้า
“แต่วันก่อนฉันเห็นแอ้มโพสต์ในไอจี เธอใส่ซีทรูถ่ายคู่กับบี๋ยังได้เลย” เซลีนเปิดรูปในมือถือให้เขาดู เพื่อนเธอคนหนึ่งหลุดไปฟอลโลว์แอกเคานต์ไพรเวตของหล่อนเข้าเลยแคปฯ มาให้ดู และเธอคิดว่าตอนนี้ตนปั้นหน้าเศร้าได้เก่งขึ้นจนน่าตบเลยทีเดียว
แววตาน้อยเนื้อต่ำใจดั่งเพลิงร้อนละลายน้ำแข็งในใจเขาให้กลายเป็นน้ำ ทั้งไม่คิดว่าแอ้มจะกล้าลงรูปเขา คงเป็นเรื่องใหญ่ถ้าเพื่อนร่วมงานเห็นเข้า แค่ที่หน้าตาเขากับหล่อนมีรอยฟกช้ำเหมือนกันก็ไม่รู้จะหาข้อแก้ตัวอย่างไรแล้ว แต่ตอนนี้เขากำลงคุยเรื่องเซลีน
“นั่นมันแอ้ม แต่นี่มันเธอ!”
เขาตวาดกร้าวอย่างเผลอไผล จับสองไหล่บางกระชับเข้ามา กลิ่นหอมสดชื่นเหมือนเดินอยู่ในทุ่งดอกไม้ลึกลับเชิญชวนให้ชิดใกล้ หากเขากลับหงุดหงิดเมื่อคิดว่าผู้ชายคนอื่นก็มีสิทธิ์ใกล้เช่นกัน ในเมื่อเขาเป็นเพียงสามีในนาม หาใช่เจ้าของชีวิตเธอ
หลายวันมานี้เซลีนน่ารักเหมือนเดิม ทำกับข้าวอร่อยเหมือนเดิม ใส่ใจเขาเหมือนเดิมแต่ที่พิเศษคือเธอปรุงเสน่ห์ตัวเองได้อย่างแสนวิเศษ น่าอายที่เขายอมรับกับตัวเองว่าเขาหวงเนื้อตัวนี้แม้ยังไม่ได้ครอบครองด้วยซ้ำ
เซลีนอยากจกตาเขา เอามาตรฐานไหนตัดสินว่าเธอแต่งตัวแบบนี้ไม่ได้ น่าเกลียดในสายตาเขาแล้วมันอย่างไร เธอจำเป็นต้องแคร์ด้วยหรือในเมื่อคนเรามีสิทธิ์ในร่างกายตัวเองเต็มเปี่ยม แม้ความคิดจะอยากเชือดคอเขาแต่ที่แสดงออกมานั้นแสนอ่อนหวานน่าเอ็นดู
“แต่ฉันไม่มีชุดอื่นใส่แล้วนี่นา ฉันสั่งตัดมาชุดเดียว”
องศาถอนหายใจ ลุงเขาสั่งให้ไปงานคู่กับเซลีนทั้งที่หญิงสาวจะปฏิเสธก็ได้ ร้อยวันพันปีเขาไม่เคยเห็นเธอออกงานสักครั้ง แถมยังแต่งตัวโชว์เนื้อหนังจนน่าโมโห
“งั้นก็อย่าถอดเสื้อคลุมก็แล้วกัน” เขาจับคอเสื้อคลุมขึ้นมาคลุมไหล่บางของคนที่นั่งคุกเขาอยู่ข้าง ๆ กระชับให้ปกปิดทรวงอกขาวสล้างพร้อมส่งสายตาดุนิ่ง ๆ ที่เกือบทำให้เซลีนหลุดขำ
“ถ้าฉันร้อนล่ะ”
“ร้อนเมื่อไหร่ก็บอก จะพากลับบ้าน”
“โอเค” เซลีนตอบรับตาใส แต่ก่อนจะได้ลุกเดินไปเขารั้งเธอลงมา ร่างสวยถลามานั่งบนตัก ไหล่มนบดเบียดแผงอกที่ออกจะค่อนไปทางกำยำ วงแขนแกร่งกอดรัดร่างนุ่มนิ่มไว้ ถูกดึงดูดเข้าไปในดวงตากลมหวานที่ทอประกายแวววาวราวแสงอาทิตย์กระทบผิวคลื่น หากมีความลึกล้ำบางอย่างที่เขาค้นเจอทว่าไม่อาจตีความได้
“วันนี้เมนส์หายใช่ไหม”
“อือ” เซลีนครางรับในลำคอ น้ำเสียงเซ็กซี่ชวนฝันพาให้เขาจินตนาการลึกซึ้ง น่าแปลกที่เขาไม่เคยตั้งใจมองเครื่องหน้าของสาวงามตรงหน้าเท่าช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ดวงตาหวานราวกับน้ำผึ้งชโลมใจ เปลือกตาคัดเบ้าน่ามองรับกับขนตางอนสวยแบบไม่ต้องง้อของปลอม ใจเขามันอิ่มเอมอย่างประหลาดคล้ายติดอยู่ในภวังค์แสนหวาน อารมณ์หวามหวานพาให้องศาโน้มใบหน้าลงไปหมายครอบครองกลีบปากสวยสีเบอกันดี
“อย่าเพิ่ง” มือบางดันหน้าเขาไว้ “เดี๋ยวก็ไม่ตื่นเต้นน่ะสิ”
เขากลั้นใจแล้วหลับตาลง ข่มความต้องการอันปั่นป่วนราวกับพายุร้ายเอาไว้ก่อน นึกไม่ออกเลยว่าจะทนให้เธอปั่นหัวได้นานแค่ไหน เขาจะเปลี่ยนใจไม่ไปงานแล้วลากแม่นางฟ้าปีกบางเข้าห้องเชือดเลยดีไหมนะ แต่เสียงแอ้มก็เข้ามาขัดจังหวะการตัดสินใจของเขาเสียก่อน
“องศา!!!”
ไม่ทันตั้งตัวเซลีนถูกแอ้มกระชากแขนแล้วเหวี่ยงออก หากเซลีน
ทรงตัวไม่ดีป่านนี้คงลมหัวทิ่มไปแล้ว
“ไหนบอกทนอยู่กับหมอเซลีนเพราะคลิป นี่อะไร องศาเกือบจะกลืนเธอลงไปทั้งตัวอยู่แล้ว” แอ้มโวยวายลั่น
หล่อนพึงใจรูปลักษณ์ขององศาตั้งแต่แรกเห็น เข้ามาเป็นแพทย์ประจำบ้านได้ไม่นานองศาก็แต่งงาน ทว่าเขาดูไม่มีความสุขเธอเลยชวนออกไปดื่ม ยั่วยวนและตีสนิทจนตกเป็นเมียลับ ๆ ตั้งแต่คืนนั้น
“อย่ามาโวยวายน่ารำคาญนะแอ้ม”
“เดี๋ยวนี้พูดแบบนี้กับแอ้มแล้วเหรอคะ”
หล่อนพ้อทั้งน้ำตา อดทนมานานกว่าเขาจะรับปากว่าจะเลิกกับเซลีน แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับเมียที่เขาไม่เคยเหลียวแลภายในระยะเวลาไม่ถึงสามเดือน เธอยอมไม่ได้หรอกนะ
“แล้วนี่แต่งตัวอะไรของหมอคะ” แอ้มมองเซลีนตั้งแต่หัวจรดเท้า เซลีนก็ทำแบบเดียวกัน ด้วยหล่อนก็แต่งยั่วเพศเต็มที่ “เป็นบ้าเหรอ ไม่หัดส่องกระจกบ้างว่ามันไม่เหมาะกับหน้า คิดว่าทำแบบนี้แล้วองศาจะกลับมารักเหรอคะ หมอมันก็แค่ของตายด้าน เขาเป็นของแอ้ม”
“แอ้ม!”
“ทำไมคะ” หล่อนท้าทาย “แอ้มพูดความจริงมันผิดตรงไหน แล้วก็แอ้มเป็นเมียองศาจริง ๆ แต่หมอเซลีนไม่ใช่ซะหน่อย”
แม่ง! อีหน้าด้าน
เซลีนขบกรามกรอด ถ้าคนที่ถือทะเบียนสมรสไม่ควรถูกเรียกว่าเมีย ผู้หญิงการศึกษาสูงแต่ทำตัวเหมือนดอกไม้ริมทางอย่างหล่อนเหมาะสมนักหรือ
“ปล่อยเขาพูดไปเถอะบี๋”
คำเรียกแทนนี้ทำให้หล่อนฉุนจัด แต่เซลีนจ้องหล่อนตาเขม็ง ถ้าหล่อนยังไม่ลืมน้ำหนักมือเธอก็ให้หล่อนเข้ามา แอ้มเผลอก้าวถอย แน่นอนหล่อนไม่เคยลืม แค่นึกถึงก็เจ็บปากขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“เซลีน...” องศาแตะข้อศอกปราม เธอสะบัดออกอย่างลืมตัวนั่นเพราะทนไม่ไหว ต่อให้ใจดีแค่ไหนแต่ที่เขายอมให้แอ้มเข้ามาวุ่นวายแบบนี้เธอรับไม่ได้ ตาวาวโรจน์ที่ตวัดมามองทำให้เขาตัวเล็กกระจ้อยร่อย คล้ายถูกแม่ดุแต่มันมากกว่านั้น ที่สำคัญนอกจากแม่ก็ไม่มีมีใครชักพาความรู้สึกนี้มาย่างกรายหัวใจ... ยกเว้นเธอ
เพียงไม่กี่วันเซลีนทำแบบนี้กับเขาได้อย่างไรกัน
“ไม่ต้องกลัว ไม่ทำอะไรคนของบี๋หรอก”
เซลีนหันขวับไปมองแม่สาวผมบลอนด์ เธอไม่ถูกชะตาหล่อนตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาในโรงพยาบาล มองก็รู้ว่าแรดเงียบแต่ไม่คิดว่าจะร่าน แต่คนของเธอเองก็ใช่ย่อย คิดดูแล้วก็เหมาะสมกันดี เธอสาวเท้าเข้าไปหาด้านแอ้มถอยหนี
ท่าทางเซลีนเอาเรื่องพอ ๆ กับวันที่ฝากรอยส้นสูงไว้บนหน้าหล่อน ทันทีที่อดีตศัลยแพทย์ยกมือขึ้นหล่อนร้องกรี๊ดย่อสุดตตัว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็มีเพียงทิชชูเปียกที่เซลีนใช้เช็ดโคลนส้นรองเท้าปาใส่หน้าหล่อน
“ฝากทิ้งด้วยนะ”
คำพูดนี้มีบางอย่างแอบแฝง บางอย่างที่ทำให้องศากลืนน้ำลายลงคอ เซลีนจ้องแอ้มไม่ถอยแม้ตอนหมุนตัวจะเดินออกไป ปรายสายตาฟาดเข้ากับคนเป็นสามี่ยืนตัวแข็งเพราะคิดว่าเซลีนจะตบแอ้มเหมือนวันก่อน องศากลืนน้ำลาย แววตานั้นมันช่างว่างเปล่าแต่ในขณะเดียวกันก็ดูชิงชังเขาเหลือเกิน
“เดี๋ยว” เขารั้งข้อมือเรียวไว้ เกือบไม่กล้าสบดวงตาที่ตนหลงใหล เธอบิดข้อมือออกแล้วมองตรงไปข้างหน้า ใบหน้าซีกข้างแสนเย็นชาคงทำให้เขาทบทวนแล้วว่าความอ่อนหวานก่อนหน้าหรือความเฉยชาตอนนี้อย่างไหนเป็นจริง
แต่ช่างเถอะ... ไว้ค่อยคิดว่าจะทำอย่างไรต่อ
“เจอกันที่งานนะคะบี๋”
เซลีนเดินไปขึ้นรถตู้ที่ลุงเขาส่งมารับแล้วบอกคนขับไม่ต้องรอ ใจเธออยากตบนังชู้ร่านให้เลือดกบปาก พร้อมกับถอดส้นสูงยัดปากไอ้ผัวเลวให้สาแก่ใจ แต่เพราะตั้งมั่นว่าจะลดตัวลงไปตบตีกับพวกศีลธรรมต่ำแค่ครั้งเดียว แถมเตรียมแผนสำหรับหญิงร้ายชายเลวคู่นั้นเอาไว้แล้วเหมือนกัน
“ผมบอกให้คุณอยู่ในที่ของตัวเองไง อย่ามายุ่งกับเซลีน คุณอยากจบเห่นักเหรอ” องศาหันไปเอาเรื่องกับตัวปัญหา แอ้มยื่นมือเข้ามาแต่เขาเบี่ยงหลบ เธอแค่อยากจะเกาะแขนเขาในยามที่หวาดกลัวเท่านั้น ท่าทีขององศาตอกย้ำว่าเธอกำลังจะพ่ายแพ้ยับเยิน
“แต่แอ้มได้ยินว่าวันนี้องศาจะไปงานระดมทุน หมอเซลีนเธอไม่ชอบออกงาน แอ้มก็เลยจะไปเป็นเพื่อน แล้วเธอก็คงไม่ใจแคบหรอกเพราะเธอก็รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน”
“อย่าเยอะเกินไปนะแอ้ม ทำอะไรนึกถึงใจเซลีนเขาบ้าง”
“คุณนึกถึงใจเธอตั้งแต่เมื่อไหร่องศา”
“...” เขากลืนน้ำลาย นั่นสิ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ความคิดแบบนี้ฝังหัว
“แค่ไม่กี่วันคุณเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอคะ”
องศาหลับตาข่มอารมณ์ เสียงของแอ้มคล้ายทำให้หูเขากลายเป็นหม้อต้มแรงดันสูงและกำลังเดือดปุด ๆ อีกนิดเดียวคงระเบิด กระนั้นยังบอกกับหล่อนอย่างใจเย็น
“กลับไปก่อนปะ”
“ไม่เอา แอ้มไม่กลับ”
เขาจ้องหน้าหล่อนนิ่ง แววตาที่แสนจะว่างเปล่ากรีดเฉือนดวงใจหล่อนจนเป็นริ้ว เป็นอันเข้าใจตรงกันว่าอย่าให้เขาต้องพูดซ้ำ หญิงสาวจำต้องสะบัดหน้าจากไป
องศาถอนหายใจหนักหน่วง ช่วงนี้แอ้มปั่นประสาทเขาอย่างร้ายกาจ หล่อนเรียกร้องมากไปจนเขาอึดอัด อย่าว่าแต่อยู่กับหล่อนเลยแค่คุยกันยังไม่เข้าใจ ที่ผ่านมาหล่อนเป็นต้มยำเครื่องร้อนแรงสำหรับเขาที่ทนดอมดมแกงจืดมานานนม ที่ตัดสินใจหย่าก็ด้วยหล่อนไม่คิดจะผูกมัดกัน แต่ใช่ว่าเขาจะไปหาต้มยำชามใหม่ไม่ได้ หากหล่อนยังไม่เลิกบ้า
พอไปถึงงานกาลาที่ลุงย้ำนักว่าต้องมาให้ได้และห้ามพลาด องศาก็หน้าร้อนฉ่าลืมความง่วงงุน แม่นางฟ้าปีกบางไร้เสื้อคลุมกำลังคุยกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่างออกรส ผู้หญิงไม่เท่าไหร่แต่ผู้ชายพวกนั้นที่เขาดูออกว่าพยายามล้อมวงเบียดตัวใกล้ชิดเธอ สายตามันก็น่าเกลียดอย่างที่เขาเกลียด แต่เจ้าของดวงหน้าครบเครื่องกลับไม่เห็นเป็นภัย หัวร่อต่อกระซิก จับบ่าจับไหล่เหมือนให้ท่าก็ไม่ปาน พานให้เขาต้องร้อนรนอยู่ไม่สุขราวก่อไฟสุมใจ
“คุยอะไรกันอยู่ที่รัก น่าสนุกเชียว” องศาแทรกตัวเข้าไปในวงสนทนา เสื้อสูทตัวใหญ่สวมทับไหล่เปลือยเปล่า ผิวขาวรางหิมะของภรรยาเขาควรเป็นคนที่ได้เชยชมก่อนใคร เพื่อนชายถอยก้าวเล็กน้อยเมื่อองศาโอบไหล่อ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ
คำว่า ‘ที่รัก’ และความอบอุ่นแสนน่าเกลียดพาใจดวงน้อยหวิวไหว แต่ใจช้ำเจ็บลึกยังคงจดจำ
“เรื่องทั่วไปน่ะค่ะบี๋” เซลีนขยับห่างเขาอย่างละม่อม องศาเลิกคิ้วมองคนในอ้อมกอดพร้อมกระชับแน่นจนเธอต้องขึงตาสู้ เขาทำเมินสายตาที่ก่อให้เกิดความรู้สึกน้อยใจอย่างประหลาดแล้วหันไปยิ้มเป็นมิตรให้หนุ่ม ๆ แต่รอยยิ้มกลับไปไม่ถึงดวงตา
หลายคนอาจเกรงใจองศา แต่ไม่ใช่ธชาเพื่อนสนิทเซลีนและเป็นหนึ่งในคนที่ปลอบใจหญิงสาวเมื่อคราวจับได้คาหนังคาเขาว่าสามีคิดไม่ซื่อ
“เซล เมื่อกี้ว่าไงนะ”
ในหมู่เพื่อนเซลีนมีชื่อเรียกง่าย ๆ ว่า ‘เซล’ น่าแปลกที่องศาขัดใจกับความสนิทสนมตามปกติของคู่นี้ หญิงสาวรู้ความคิดเพื่อนสนิทดีจึงปลดสูทส่งคืนองศาแล้วเอื้อมไปคว้าต้นแขนธชา
“อ๋อ เออ จะชวนไปหาจารย์ซี” เธอหมายถึงธีรดา ศัลยแพทย์สมองชื่อดังซึ่งเป็นที่ปรึกษาตอนเรียนต่อหม่อศัลย์ฯ
นายแพทย์ธีรดาก็เป็นอาจารย์องศาเช่นกัน แต่คิดว่าวงสนทนานั้นคงไม่ต้อนรับเขาเท่าไหร่ องศาจึงแวะเวียนไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมอาชีพตามโต๊ะต่าง ๆ จนสุดท้ายก็กลับมานั่งหน้าตึงไม่แตะอะไรนออกจากบรั่นดี การแสดงบนเวทีทั้งนางแบบสวยขยี้ใจเพียงไรหากสายตายังถูกตรึงกับเรือนร่างเพรียวบางของภรรยาซึ่งนั่งไขว่ห้างราวนางพญา สนทนากับอาจารย์รวมถึงกลุ่มเพื่อนที่โต๊ะอื่นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ก็ไม่มีสักครั้งที่เจ้าหล่อนจะมองมา
เขาก็น่าจะทำบ้าง... เพื่อนฝูงก็เข้ามานั่งสรวลเสเฮฮา แต่กลับไม่อาจละสายตาจากเธอได้เลย
“มึงหวงขนาดนี้ไม่เก็บไว้ที่บ้านคนเดียวเลยวะ” อรรนพ แพทย์ศัลยกรรมประสาท เพื่อนตั้งแต่เรียนประถมเอียงตัวมาพูดใกล้ ๆ
“อะไรของมึง”
“ก็เมียมึงไง” อรรณพมองภรรยาเพื่อนที่นั่งถัดไปสามโต๊ะด้วยตาปรอย “เซล...”
ชื่อเซลในแบบที่เพื่อน ๆ เรียกกันแต่พอมันออกมาจากปากอรรณพกลับน่าหมั่นไส้มากกว่าคนอื่น กระนั้นอรรณพก็ไม่คิดจะลดท่าที เพราะเขาอยากเห็นปฏิกิริยาบางอย่างขององศา
“ถ้ามึงไม่เอาแล้ว กูต่อนะ นิวลุคแบบนี้สเปกกูเลย”
ตอนนั้นเจ้าหล่อนหันข้างให้เขาพอดี เต้างามที่น่ากลัวว่าจะปลิ้นออกจากเนื้อผ้าเมื่อมองจากด้านข้างพาให้ให้ศัลยแพทย์หนุ่มกลืนน้ำลาย ไหล่สวยรับกับแผ่นหลังบอบบางไหนจะสะโพกงามงอนกับเรียวขายาวนั่นเสมือนเธอหลุดออกมาจากแมกาซีน ไม่เข้าใจเหตุใดองศาถึงปล่อยให้หลุดรอดมาถึงตอนนี้ซ้ำยังเคยมีท่าทีไม่สนใจเจ้าหล่อนอีกต่างหาก แต่ตอนนี้มันกลับผลักไหล่เขาอย่างไม่พอใจ
“ว่าไงครับเพื่อนอง”
“งานของพวกเรามาแล้ว”
องศากลบเกลื่อนด้วยเรื่องงาน แต่อันที่จริงคุณวินธัย เจ้าของงานระดมทุนแล้วเป็นว่าที่นายทุนรายใหม่ของโรงพยาบาลมาถึงงานตั้งนานแล้ว แต่องศาไม่ลุกไปเสียทีเอาแต่มองเซลีนไม่วางตา อรรณพก็ไม่อยากขัดเพื่อน
“เครครับ ๆ”
เขาลุกเดินตามองศาไปแต่สายตายังไม่วายลวนลามภรรยาเพื่อน จนองศาต้องตบท้ายทอยมันเบา ๆ
“ของกู”
“แหม่ รู้แล้วละครับว่าหวง”
หวง...
องศาเคยคิดว่ากับเซลีนมันจะไม่มีคำนี้อยู่ในความรู้สึก แต่เพียงไม่กี่คืนทุกอย่างก็เปลี่ยนไป รอยยิ้มจืดชืดของเธอกลับดูหวานละมุนละไมติดตราตรึงใจไม่รู้เลือน อนึ่งรอยจูบของเธอคล้ายเป็นยาเสพติดมอมเมาให้เขาลุ่มหลง ยิ่งพยายามหักห้ามหัวใจเท่าไหร่มันก็สร้างความทรมานได้บาดลึกแตกร้าวมากเท่านั้น
ช่างน่าแปลกเหลือเกินที่ในที่ทำงานแม้เขาจะง่วงหงาวหาวนอนเพราะความเหนื่อยสะสม แต่ในห้วงความรู้สึกนั้นชายหนุ่มกลับอภิรมย์เพราะรสรักจากภรรยาสาวจนไม่อยากตื่น พอกลับมาถึงบ้านคำทักทายแสนธรรมดาที่ได้ยินมาหลายร้อยวันอย่างเช่น ‘กลับมาแล้วเหรอคะ’ แต่ตามด้วยคำว่า ‘ที่รัก’ กลายเป็นดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ พาให้เขาลืมเรื่องราวร้าย ๆ จากที่ทำงานแล้วเหลือแต่เพียง ‘เรื่องของเรา’ อยู่ในหัว
นับวันเซลีนค่อย ๆ ตราตรึงในความรู้สึกเขา น่ากลัวเหลือเกินว่าเธอจะเข้ายึดครองพื้นที่ในหัวใจเขาได้ในเร็ววัน ถึงตอนนั้นเขาจะปล่อยเธอไปได้จริง ๆ งั้นหรือ
มันคงยากเหลือเกิน... แล้วอย่างนี้เขาจะเดินหน้าต่อจนถึงสามเดือนหรือควรจะถอยให้เร็วที่สุดดี
องศาไม่รู้ว่าเซลีนกลับบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะพอเข้าไปผูกมิตรกับนายทุนได้สักพักเขาก็ไม่เห็นทั้งเจ้าหล่อนทั้งหมอธชาแล้ว โทร.หาก็ไม่รับ ซ้ำร้ายลุงโอบยังโทร.มาโวยที่เขากับเซลีนทำขายหน้า เพราะเดิมทีวินธัย
แพลนจะสนับสนุนโรงพยาบาลตั้งแต่ครั้งที่พ่อเซลีนเป็นหัวเรือใหญ่ พอเปลี่ยนผ่านอำนาจฝ่ายนั้นเลยไม่มีความมั่นใจ การที่ส่งหลานชายกับหลานสะใภ้ของตนไปพบในวันนี้ก็เพื่อยืนยันว่าสถานการณ์ภายในปกติดี แต่นี่อะไร ผัวไปทาง เมียไปทาง
“แค่นี้ก่อนนะครับลุง”
องศาโพล่งขึ้นมากลางปล้องแล้วกดวางสายขณะข้อมือแกร่งเลี้ยวพวงมาลัยเข้าสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งที่รู้จากเพื่อนที่โรงพยาบาลมาว่าพวกเขาจะมาสังสรรกันต่อที่นี่
เดิมทีเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเซลีน มองเธอเป็นเพื่อนคนหนึ่งแต่ลุงบอกว่าอยู่ไปเดี๋ยวก็รัก ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองรู้สึกจริง ๆ ลุงกลับพยายามยัดเยียดเรื่องผลประโยชน์บ้าบอมาให้น่าโมโห
เขาไม่อยากสนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากเรื่องของเขากับเธอ... เธอซึ่งเป็นเมียเขาอย่างถูกต้องทางนิตินัย แล้วไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะเป็นทางพฤตินัยด้วยให้ได้
แต่สองมือถึงกับกำแน่นเพราะที่บาร์เครื่องดื่มเขาเห็นเจ้าหล่อนนั่งคลึงแก้วไวน์แต่สายตาลึกล้ำมองจ้องคู่สนทนา คล้ายจะกลืนกินกันทางสายตา ถ้าเซลีนเป็นปลากัดป่านนี้เธออาจจะท้องแล้วก็ได้
เมื่อก่อนเขาไม่เคยสนใจว่าเซลีนจะไปไหน ทำอะไรอยู่กับใคร ทั้งยังคิดว่าเจ้าหล่อนไม่ใส่ใจหากเขาจะออกไปสังสรรจนลืมวันลืมคืน แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเธอรู้สึกอย่างไร แล้วเขาก็สนมากด้วยว่าเธอกำลังทำอะไร ไปไหนกับใคร
“นึกถึงสมัยก่อน ที่เซลแอบพ่อมาเที่ยวกลางคืนบ่อย ๆ จำได้ว่าเราดวลเหล้ากันจนถึงเช้าทุกวัน”
“ครั้งนึงพ่อจับได้ ด่ายับเลยค่า” เซลีนนึกขำ
ตั้งแต่เกิดจนถึงอายุสิบแปด พ่อเธอหวงยิ่งกว่าไข่ในหินจึงไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่น พอเข้ามหาวิทยาลัยหญิงสาวมีโอกาสได้อยู่คอนโดและไม่มีพ่อคอยคุม จิตใจจึงเกเรไปหน่อย เพราะต่อให้เรียนหนักแค่ไหนทว่าหญิงสาวเที่ยวหนักกว่า กลางวันเป็นเด็กดี กลางคืนเพื่อนชอบเรียกว่านังเด็กแรด กระนั้นก็มีความรับผิดชอบเพียงพอทั้งต่อตัวเองและต่อการเรียน
“รำลึกความหลังกันไหมเซล”
“เออ น่าสน” เธอยิ้มตื่นเต้น
ธชาไม่อาจถอนสายตาจากรอยยิ้มลึกล้ำของเจ้าหล่อน ไม่ว่าเซลีนจะเป็นคนเรียบร้อยหรือเร่าร้อนเขาก็ไม่เคยแปลกใจ ด้วยร่วมหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง เห็นไส้เห็นพุงกันแบบทะลุปรุโปร่ง แต่หญิงสาวก็เข้ามานั่งในหัวใจเขาได้อย่างไร้ข้อสงสัย เพราะไม่ว่าเธอจะมาในลุคใด เซลีนก็ยังเป็นผู้หญิงจิตใจดีคนเดียวคนเดิมที่ธชารัก
แน่นอนเขารู้ว่าเซลีนรับรู้ได้เพียงแต่ที่ผ่านมาเธอขีดเส้นไว้แล้วว่าให้เป็นแค่เพื่อนกัน ถึงอย่างนั้นธชาก็ไม่เสียใจ เขาคิดเสียว่าถ้าคนเรามันจะใช่ จะวันนี้หรือวันข้างหน้ามันก็ต้องได้รักกันอยู่ดี
แต่ธชาจะเขี่ยไอ้ชั่วผัวหลายใจของเพื่อนรักไปได้อย่างไรในเมื่อมันตามติดเป็นปลิงขนาดนี้
“เซลต้องกลับบ้านแล้ว”
ธชามององศาที่ถือแก้วไวน์เข้ามาแทรกกลางหน้าด้าน ๆ องศาพิงข้อศอกกับเคาน์เตอร์ จ้องหน้าธชาอย่างไม่ยอมกัน ที่เคยคิดว่าจะถอยเขากลับไม่อยากปล่อยเธอไปเมื่อเห็นภาพแบบนี้
เซลีนยิ้มในหน้า นี่เป็นสงครามประสาทขนาดย่อมที่เซลีนคิดเอาไว้และตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ก็เพราะองศาติดบ่วงของเธอแล้วอย่างไรล่ะ ต่อไปก็เหลือแค่ว่าจะทำอย่างไรให้บ่วงนี้รัดคอเขาจนตาย!
+ + +
“บี๋” เซลีนรั้งไหล่สามีให้หันมามอง แววตาขุ่นเคืองขององศาทำให้อยากหัวเราะดัง ๆ เสียเดี๋ยวนั้น หากก็แสร้งถามไปราวกับไม่เข้าใจอะไร “ตามมาถูกได้ยังไงคะเนี่ย”
“ตามมาได้ยังไงไม่สำคัญ”
เขารวบเอวบางของหญิงสาวเข้ามาแนบชิด กลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจสาวฉุนกึก ร่างบางอ่อนยวบเพราะฤทธิ์เหล้าอยู่ในอ้อมกอดเขา เสียงหัวเราะเบา ๆ อย่างน่ารักสั่นคลอนหัวใจที่มันหวั่นไหวอยู่แล้วให้เต้นรัว ที่อยากดุด่าเธอลกลับเหลือเพียงกระซิบเสียงอ่อน
“...สำคัญที่ว่าเธอเป็นอะไรของเธอเซล!”
“ฉันก็เป็นฉันไงที่รัก” หญิงสาวตั้งใจยิ้มยั่วยวน เห็นองศาเดือดพล่านแบบนี้แล้วสาแก่ใจ ให้รู้เสียบ้างว่าเธอรู้สึกอย่างไรตอนที่เขาทำแบบเดียวกัน ที่แย่กว่านั้นคือเธอต้องข่มอารมณ์ให้สงบแล้วหลอกตัวเองว่าเขาจะไม่นอกลู่นอกทาง จนมาเห็นคาตาเมื่อหลายวันก่อนนั่นอย่างไร
“กลับบ้านเดี๋ยวนี้”
“ไม่เอา”
เซลีนขืนตัว สายตาหวานเชื่อมมองเขาแล้วหัวเราะคิกคัก สองพวงแก้มแดงปลั่งบวกกับกลีบปากฉ่ำเยิ้มพาให้เขาจินตนาการว่าเจ้าหล่อนกำลังเคลิบเคลิ้มบนเตียงของเขา แต่แน่ละ... ใช่จะมีเขาคนเดียวที่มีสิทธิ์จินตนาการ
ผู้ชายคนอื่นที่มองเจ้าหล่อนตาหวานซึ่งไม่รู้เซลีนสังเกตเห็นหรือไม่ หรือแม้กระทั่งไอ้หมอธชามันก็มีสิทธิ์ไม่ต่างกัน
“ทำไมต้องรีบกลับล่ะคะบี๋” มือบอบบางแตะกรามเขาเบา ๆ พลางลูบไล้ สายตาร้อนแรงดั่งไฟพาให้หัวใจเขาอ่อนระทวยแม้พยายามข่มกลั้นเท่าไหร่ก็ตาม “อุตส่าห์ได้เที่ยวทั้งที ทำไมใจร้ายกับเมียจังเลย”
องศาตะปบข้อมือเรียวอย่างแรง
“จะกลับบ้านหรือจะให้ฉันจูบเธอโชว์ตรงนี้”
“อย่าทำรุ่มร่ามกับเซลนะ” ธชากระชากไหล่องศาออกมา แต่คนมีสิทธิ์ในตัวภรรยาเต็มร้อยกลับปัดมือเขาออก
“ผมเป็นผัวเซล แล้วคุณเป็นใคร” ดวงตาคมกริบขององศามอง
ธชาหัวจรดเท้า ก็แค่เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ จะมาสู้อะไรกับผัวในทะเบียนอย่างเขา เสือกไม่เจียมตัวซะแล้ว
“...”
ธชานิ่งไปทั้งที่อยากเตะก้านคอองศาแต่ติดที่ว่าเขาเป็นคนนอก ที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดเซลีนขนาดนี้อีกครั้งก็เพื่อทำตามแผนของเธอ ชายหนุ่มได้แต่ขบกรามกรอด มององศาแอบอิงเซลีนด้วยใจเจ็บหนึบ
แทนที่จะกลัวอายแต่เซลีนกลับขำ องศาก็แค่ผู้ชายหลงตัวเองคนหนึ่งและที่แย่ไปกว่านั้นมันทำให้เขาดูหมิ่นผู้อื่นได้อย่างน่าเกลียด คิดจริง ๆ สินะว่าคำขู่แค่นี้จะทำให้เธออายจนน้ำตาตกแล้วยอมกลับไปด้วยกัน
เสียใจ... เธอไม่ใช่เด็กสาววัยใสที่ไม่เคยจูบใครในที่สาธารณะ
“ไม่เป็นไรธชา” เซลีนเสมองเพื่อนแล้วเลื่อนสายตามองหน้าสามี “บี๋คิดว่าเค้าไม่เคยจูบผู้ชายต่อหน้าคนอื่นเหรอ?”
“...”
“คิดว่าเค้าใส ๆ ขนาดนั้นจริงเหรอ?
องศาหน้าชาไปทั่งแถบ เธอทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองใหญ่คับฟ้าเพื่อพาเมียกลับไปจะไม่เกรงหน้าไหน แต่เพียงชั่ววินาทีเซลีนกลับทำให้เขาไม่ต่างจากมดตัวเล็กจ้อย ยิ่งไปกว่านั้นเขาเกลียดใครก็ตามที่เธอเคยจูบต่อให้มันจะเป็นเพียงอดีตก็ตาม
เซลีนหัวเราะในลำคอเบา ๆ ทั้งพึงพอใจและเย้ยหยันสามีอยู่ในที
“จูบเค้าสิ”
เซลีนวาดแขนเรียวโอบรอบลำคอหนา สายตาที่จับจ้องใบหน้าหล่อเหลาอัดแน่นไปด้วยความปรารถนาก่อนจรดริมฝีปากน่ามองกับขอบแก้วบางเฉียบแล้วหน้าสวยก็เชิดขึ้นน้อย ๆ เพื่อกลืนกินไวน์ในแก้ว แววตาลึกล้ำที่แอบซ่อนบางอย่างนั้นทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้อง สั่นคลอนความมั่นใจขององศาขั้นร้ายแรง
ให้ตาย!
แม่นางฟ้าปีกบางของเขาทั้งร้อนแรงแถมมีเสน่ห์เหลือล้น ทำเอาอยากเก็บเธอไว้ที่บ้านคนเดียวเหมือนอย่างอรรณพบอกเสียแล้ว
“หรือเราจะไปห้องน้ำกันดี”
“พูดอะไรน่าเกลียดเซล!”
จริงอยู่ที่เขาผ่านเรื่องทำนองนี้มานับไม่ถ้วน คู่นอนหลายคนก็เจอกันในที่อโคจร แต่เซลีนไม่เหมือนพวกหล่อน... อย่างน้อยก็ในความคิดของเขา
“เธอเมามากแล้วนะ” องศาดึงแก้วไวน์จากมือเธอไปวางบนเคาน์เตอร์บาร์
หญิงสาวหัวเราะน้อย ๆ อย่างมีจริต ตามธรรมชาติสัตว์มักวางอำนาจเมื่อมั่นใจว่าตัวเองได้เปรียบ หากเมื่อมันกลับกัน... ก็คงจะเสียเปรียบหัวหดแบบองศาในตอนนี้ เซลีนเบียดตัวแนบชิดคนเป็นสามีเพื่อโน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบ
“ที่รักขา...”
ไอร้อนจากลมหายใจเธอพาให้องศาขนลุกเกรียว เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกว่าภรรยาน่ากลัวแต่ในขณะเดียวกันเธอก็ยั่วยวนอย่างเกินต้าน องศาอยากฟังคำว่า ‘ขา’ เมื่อกี้อีกหลาย ๆ หนแต่เป็นบนเตียงที่บ้านนะ
“อย่ามั่นใจอะไรผิด ๆ แล้วคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายคนเดียวในชีวิตฉัน ถึงจะได้เอาจูบกระจอก ๆ มาบงการฉันได้สิคะ”
คำพูดสำเนียงหวานปานน้ำผึ้งแต่มันผสมยาพิษราดหัวใจเขาให้เผาไหม้ ไหนจะสายตาหยามหยันตรงข้ามกับรอยยิ้มเย้ายวนยามเจ้าหล่อนผละออกแล้วมองมา แต่ก็ยังไม่เท่าจุมพิตอ่อนหวานแต่เร่าร้อนจนเขาแทบจะหายใจไม่อิ่มที่เซลีนมอบให้นั่นอีกเล่า
“เก็ตเนอะ?”
“...” องศายืนอึ้งทั้งกับสัมผัสวาบหวามหวานละมุนเหมือนน้ำผึ้งเดือนห้า พัดพาเอาความต้องการอันแรงกล้าเข้ามาทักทาย แต่น่าเสียดายที่มันก็แค่นี้... แค่นี้จริง ๆ
“อืม... ตอนนี้เค้าชักอยากกลับบ้านแล้วสิ”
ลิ้นเรียวของเซลีนแลบเลียเรียวปากด้านล่างของตัวเองเมื่อคลายจูบ ทว่าแววตานั้นเยาะหยันเขาเต็มขั้น
“แต่ไม่กลับกับบี๋นะ”
หญิงสาวผละออกไปคล้องแขนธชาที่วางธนบัตรหนึ่งพันบาทห้าใบลงบนเคาน์เตอร์แล้วเดินจากไปด้วยกัน
เซลีนทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน... ในขณะที่เธอพูดเหมือนชิงชังเธอก็ทำเหมือนรักเขาไปด้วย ราวกับว่าเธอผลักไสเขาออกไปแล้วแต่กลับดึงเขาเข้ามาได้อีกอย่างง่ายดาย ตกลงเธอรักเขาจริง ๆ หรือว่าเธอเกลียดเขากันแน่
ทั้งที่เซลีนออกจากร้านก่อนเขาแท้ ๆ แต่กลับยังมาไม่ถึง องศาเหลือบตามองนาฬิกาติดผนัง ตีหนึ่งแล้วไม่มีแววเธอจะกลับมา เขาเองก็รู้สึกเหมือนบ้า แทนที่จะนอนเอาแรงเพราะง่วงจนตาแทบปิดแต่ดันมานั่งดื่มเหล้าราวกับจะย้อมใจ ทันทีที่เสียงรถและแสงไฟสาดเข้าหน้าต่างกระจกบานสูง ร่างใหญ่ก็พรวดลุกไปกระชากประตูบ้านพุ่งตัวเดินสะโหลสะเหลไปดึงประตูรั้ว กะจะต่อยหน้าไอ้หมอธชาให้คว่ำโทษฐานที่มันพาเมียเขาไปเถลไถล อย่างน้อยก็อ้างว่าตัวเองเมาได้แหละวะ
แต่ผิดคาดจริง ๆ ที่เห็นเซลีนลงจากแท็กซี่มาเพียงลำพัง อีกทั้งไม่มีอาการมึนเมาเลยสักนิด
เซลีนไปทำอะไรมาถึงหายเมาล่ะ... หรือว่าเธอกับนายนั่นจะเกินเลยมากกว่าเพื่อนกัน ความคิดขององศาฟุ้งซ่านเหลือเกินทั้งที่พยายามบอกตัวเองว่าเธอไม่ใช่คนแบบนั้น เขาแค่ระแวงไปก่อนเพราะกลัวเซลีนจะเป็นเหมือนตัวเอง
“ไปไหนมา!”
ชายหนุ่มกระชากไหล่เซลีนอย่างแรง ความหวาดระแวงหอบเอาความร้อนรนมากัดกินใจ แต่เจ้าหล่อนกลับยิ้มให้ราวกับหาใช่เรื่องร้ายแรง
ใช่สิ... สำหรับเธอมันก็แค่การออกไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่เหมือนคนรออย่างเขาที่ใจแทบขาด กลัวไปหมดไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือการนอกใจ องศาน้อยใจเธออยู่ครามครัน
“เธอไปนอนกับมันมาใช่ไหม”
เซลีนกำหมัดแน่นเพราะคำถามดูแคลน อยากถีบยอดหน้าไอ้คนเฮงซวยให้หงาย หากจำต้องปั้นหน้าใสซื่อส่ายหัวตอบไปว่า
“เปล่านะ”
“แล้วไปไหนกับมันมา” เธอหักหน้าเขาแล้วกอดแขนกันออกไปแบบนั้นมันทำให้เขาอดคิดไม่ได้จริง ๆ
“ไปซื้อนี่มา” เซลีนดึงขวดไวน์ที่ซ่อนในเสื้อคลุมออกมา “ไวน์ดี ๆ สำหรับคืนแรกของเราไง”
องศานิ่วหน้าไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้เธอทำเหมือนไม่ต้องการเขา แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เหตุการณ์ที่หญิงสาวขอเวลาเขาสามเดือนเกือบทำให้องศาเชื่อสนิทว่าเซลีนเป็นคนลืมง่ายหรืออย่างน้อยก็คงแกล้งลืมเพื่อไขว่ความสุขกับเขาก่อนจะสาย
แต่ตอนนี้ชักไม่มั่นใจ... มันเหมือนเซลีนกำลังเล่นกับความรู้สึกเขามากกว่า
“เธอคิดอะไรอยู่เซลีน?” เค้นเสียงถามอย่างเหลืออด ทั้งโกรธ ทั้งน้อยใจผสมปนเปกันอยู่ในอก
“บี๋ เค้าเจ็บ”
เซลีนแสร้งบีบน้ำตาแม้ในใจกำลังลุกเป็นไฟ ใบหน้าสวยจัดเหยเกเพราะเจ็บที่เขาบีบต้นแขน น้ำตาเธอคล้ายของร้อนนาบใจองศา น้ำลายในคอมันเหนียวจนกลืนไม่ลงขณะผ่อนแรงที่จับต้นแขนเจ้าหล่อนลง
“ฉันขอโทษ”
“ไม่เป็นไร” เซลีนบอกเสียงสั่น ทั้งที่อยากจะเอาขวดไวน์ฟาดหัวให้สลบเหมือด แต่ทำได้เพียงยกมือลูบแขนยิก ๆ ทำมารยาน่าสงสาร
แพขนตางามงอนชุ่มน้ำตาทั้งน่าสงสารและน่าเอ็นดูจนองศาลืมภาพแม่สาวเจนจัดที่บาร์ไปหมด
“ฉันแค่โมโหที่เธอไปกับธชา เพราะเธอเป็นของฉัน เข้าใจไหม”
“เค้าก็ไม่โอเคเหมือนกันที่บี๋ให้แอ้มเข้ามาวุ่นวายกับเค้า แล้วก็ไม่ชอบที่บี๋ขู่เค้าต่อหน้าคนอื่น เลยประชดไปแบบนั้น แต่เค้าแยกกับธชาที่หน้าร้าน เพราะคิดได้ว่าทำตัวไม่น่ารักทั้งที่เป็นคนขอโอกาสแท้ ๆ เลยอยากทำให้คืนนี้พิเศษหน่อย จำได้ว่าบี๋ชอบไวน์ยี่ห้อนี้มากก็เลย...”
“พอแล้ว...” องศาทาบนิ้วชี้กับเรียวปากสีเบอกันดี เซลีนกลืนคำพูดทั้งหมดลงไปในลำคอ “ฉันเชื่อเธอแล้ว แล้วฉันก็ขอโทษด้วยที่ทำไม่ดี ส่วนเรื่องแอ้ม ฉันจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก สามเดือนนี้จะมีแต่เรา โอเคไหม”
“จริงนะ” ร่างสวยสะคราญขยับเข้ามากอดแขนใหญ่ หน้าอกหน้าใจบดเบียดมัดกล้ามเนื้อต้นแขนปลุกเร้าอารมณ์ชายที่เขาพยายามกักเก็บมาหลายวัน
ตั้งแต่โดนจับได้ว่ามีอะไรกับแอ้ม เขาก็ไม่ได้ทำแบบนั้นกับหล่อนอีกเลย ไม่เข้าใจกันก็ส่วนหนึ่ง แต่อันที่จริงเขารอดื่มด่ำความสุขที่เซลีนตั้งใจมอบให้มากกว่า เทียบกันแล้วเซลีนในตอนนี้เร่าร้อนกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยผ่านมา กลัวเหลือเกินว่าเจ้าหล่อนจะทำเขาสำลักความสุขตายไปเสียจริง ๆ
องศานั่งดื่มไวน์กับภรรยาที่ริมสระว่ายน้ำหลังบ้าน เซลีนเปลี่ยนชุดราตรีมาใส่ชุดว่ายน้ำทูพีซสีเหลืองแสบตา ไม่อาจละสายตาจากเรือนร่างเย้ายวนมีส่วนโค้งเว้าชัดเจนนั่นได้เลย ต่อให้ง่วงและเมาแค่ไหนเขาก็ไม่ยอมหลับง่าย ๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเธอในสภาพเกือบเปลือย หลายคืนมานี้เขาได้จับแต่หน้าอกน่ะ
“ง่วงแบบนี้จะมีแรงทำเหรอ”
แม่นางฟ้าปีกบางที่เพิ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำแล้วว่ายมาเกาะขอบสระยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขา องศานั่งห้อยขาข้างหนึ่งลงไปในน้ำอีกข้างชันเข่ามากอดไว้โน้มตัวลงไปจ้องเธอ
ผู้หญิงอะไรสวยฉิบหาย... สวยวัวตายควายล้ม สวยแม้กระทั่งตอนเปียก ไอ้องศาหน้าโง่คนก่อนมันปล่อยให้รอดมาถึงตอนนี้ได้อย่างไรนะ ไอ้ควาย!
“ก็อย่าว่ายน้ำเพลิน รีบขึ้นมาเอาเร็วเข้า”
ทำไมนะทำไม... กลิ่นหอมของเซลีนเมื่อผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์แล้วมันถึงได้ยั่วเย้าอารมณ์เขาได้ถึงขนาดทำให้เขารู้สึกเหมือนเด็กหนุ่มที่นมเพิ่งแตกพาน ความรู้สึกในกายตื่นเร่าอย่างน่าอายแม้เขาอยู่ในสภาวะง่วงซึม
“ควรรีบไหมนะ” เซลีนเขย่งเท้าเข้าไป ทำท่าจะจูบเขาแต่จังหวะที่องศาเผยอเรียวปากรับจุมพิตเธอก็ขยับไปหยิบขวดไวน์ที่เอามาจากตู้เก็บไวน์มาเพิ่ม ทำเอาคนอดอยากต้องหลับตาข่มอารมณ์พลางสูดหายใจเข้า
ลึก ๆ
“รีบก็ได้นะครับที่รัก”
องศาไม่ต่างจากของเลี่ยนที่เซลีนจะไม่แตะซ้ำ คำก็ ‘ครับ’ สองคำก็ ‘ที่รัก’ บอกเลยว่าขนลุก
“เรามาเล่นเกมกันไหม ใครดื่มหมดขวดทีหลังคนนั้นต้องถอดเสื้อผ้าทีละชิ้น”
องศายิ้มตาหื่น เท่ากับว่าถ้าเขาดื่มหมดก่อนสองขวดก็จะเห็นเธอเปลือยทั้งตัว ข้อเสนออ่อย ๆ ที่โคตรดีแบบนี้ไอ้โง่ที่ไหนจะปฏิเสธ ชายหนุ่มรีบคว้าไวน์ขวดที่อยู่ใกล้มือขึ้นมากระดก
แต่เพิ่งรู้ว่าเมียเขาไม่หมู...
เซลีนดื่มเร็วแถมยังคอแข็งมากเสียด้วย เขาแพ้เธอติดต่อกันจนต้องถอดทั้งเสื้อทั้งกางเกง แถมสติสัมปชัญญะก็เริ่มเลือนราง ภาพสุดท้ายที่จำได้ก็คือเมียรักเดินขึ้นจากสระ ดันไหล่เขาไปด้านหลังแล้วขึ้นคร่อม แล้วทุกอย่างก็มืดลง
“ช่อ ออกมาได้แล้ว” เซลีนผละออกจากร่างไร้สติขององศาแล้วเรียกใครบางคนที่เธอจัดแจงให้มาซ่อนอยู่ในบ้านตั้งแต่หัววัน
‘ช่อ’ หญิงสาวอายุยี่สิบสามปีที่สวมชุดนอนสายเดี่ยวมองสภาพขององศาแล้วถึงกับหน้าแหย
“เอาจริงเหรอเนี่ย”
“ถึงขั้นนี้แล้ว ถอยไม่ได้นะ”
ในเมื่อถอยไม่ได้ก็มีแต่ต้องเดินหน้าเท่านั้น เซลีนกับช่อช่วยกันลากองศาเข้าไปในห้องนอนอย่างทุลักทุเลกว่าจะเรียบร้อยก็เหงื่อตกเลยทีเดียว
“ที่เหลือทำเองได้ใช่ไหม”
“อือ” ช่อพยักหน้าหงึก ๆ แต่สีหน้าไม่มั่นใจ
หล่อนทำงานบริการเป็นหลักก็จริงแต่ไม่มีสักครั้งที่จะมาลักหลับลูกค้า ส่วนมากถ้าลูกค้าเมาหล่อนก็แค่นอนข้าง ๆ รอให้สร่างค่อยสานต่อเพราะคนเมาเอาเข้าจริง ‘เจ้านั่น’ มันก็ใช้การไม่ค่อยจะได้ แต่นี่หมอเซลีนกำชับว่าต้องสอดใส่ให้ได้เพราะสามีหมอเป็นผู้ชายฉลาดแถมยังเป็นหมอเหมือนกันอีก เขาย่อมรู้สึกได้ว่าตัวเองเพิ่งผ่านเซ็กซ์มาหรือไม่
งานของหล่อนก็คือปลุกมะเขือเผาเอามาสอดใส่แล้วไปรับเงินอีกครึ่งที่เหลือจากหมอธชาแค่นั้นเอง
ด้านเซลีนย้ายไปนอนห้องนอนเล็ก หยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกมไพ่โป๊กเกอร์ฆ่าเวลา อุตส่าห์เติมเกมไปตั้งสามพันวันนี้เธอจะต้องมีชิปพันล้านให้ได้
ส่วนเรื่ององศาน่ะเหรอ... เธอไม่แคร์
แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงนอนร้องไห้ที่ต้องยอมให้สามีที่ถึงจะแค่ในนามแต่เธอก็รักไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น ทว่าพอผ่านเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนมาได้แล้วเธอก็ร้องไห้เป็นเผาเต่าจนคืนนั้นธชากับเดอะแก๊งต้องเสียค่าเหล้าเป็นแสน น้ำตาเธอก็ไม่มีเหลือสำหรับผู้ชายเลว ๆ พรรค์นี้อีกแล้ว
ที่สำคัญเธอเสียดายค่าเหล้าน่ะ...
องศาจำอะไรไม่ได้เลยนอกจากท่าทางเย้ายวนของเมียรักกับความแข็งขึงของเจ้างวงผงาดตอนที่สะโพกกลมกลึงนั่งทับลงมา กลีบเนื้อของเธอร้อนกว่าผิวบริเวณอื่นแม้จะเพิ่งขึ้นจากน้ำมาก็ตาม แต่เช้านี้เขาระบม ‘ตรงนั้น’ ไปหมด ความรู้สึกและกลิ่นอันคุ้นเคยของอาฟเตอร์เซ็กซ์ยังคละคลุ้งอยู่ทั่วห้อง รอยหวานยังหลงเหลืออยู่ในอารมณ์หวาม เขาตอนนี้ก็เหมือนคนบ้าเข้าไปใหญ่เพราะเมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวได้ก็ยิ้มละเมอยกมือขึ้นมาทาบอก
มันอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก
เขาเคยรู้สึกแบบนี้ตอนได้รู้จักรสสวาทครั้งแรกเมื่ออายุสิบสี่ หล่อนเป็นรุ่นพี่ที่เขาแอบชอบมานาน มันประดักประเดิดพอสมควรแต่คือความจริงที่ว่าหล่อนทำให้เขาเป็นผู้ชายเต็มตัว ส่วนเซลีนเธอทำให้เขาเป็น ‘ผัว’ อย่างสมบูรณ์
ฟอด...
หันไปหอมแก้มแม่นางฟ้าในกรงไฟที่นอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม เส้นผมสลวยแผ่สยายอยู่บนหมอนมันยังหอมมิรู้จาง ให้ความรู้สึกราวได้ฟังดนตรีไพเราะที่บรรเลงขับกล่อมให้คนฟังตกอยู่ในภวังค์ มันไม่เกินไปหรอกถ้าจะบอกว่าเมียเขามี ‘ฟีโรโมน’ แม้เจ้าหล่อนจะเป็นเพียงคนธรรมดา
เซลีนแกล้งทำเป็นหลับ ทนให้เขาสอดมือน่ารังเกียจเข้ามาลูบไล้เรียวขาไล่มายังสะโพกเปลือยเปล่า กัดฟันแน่นตอนที่เขาวนไล้เนื้อนุ่มกลมกลึง แต่มือเรียวรีบดึงมือเขาออกเพราะกลัวจะลามไปแตะต้องของหวง
“ตื่นนานแล้วเหรอคะที่รัก” หันหน้าไปมองเขาผ่านไหล่ ไอ้ผัวชั่วมันยิ้มแป้นอิ่มอกอิ่มใจน่าหมั่นไส้เหลือเกิน
“ครับผม” เขาจ้องเธอตาฉ่ำ
เสียงขานรับยิ่งทำให้เธอขนลุกในขณะเดียวกันก็อยากขำ ถ้ารู้ว่าคนที่นอนด้วยเมื่อคืนไม่ใช่เธอ องศาจะทำหน้าแบบไหนกันนะ
“หิวจังเลย”
ปากพูดแบบนั้นแต่องศาไม่กระตือรือร้นจะลุกจากเตียง แขนแกร่งสอดกระชับร่างนุ่มนิ่มเข้ามาแนบชิด เป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่เขารู้สึกเหมือนตัวเองล่องลอยอยูในปุยเมฆ มันเย็นสบาย และมีความสุขมากเสียจนไม่อยากผละจากไปไหน
“หิวอะไร” เซลีนแกล้งถามเปิดทาง
“หิวเมีย ได้ไหม”
“ไม่ได้”
“งั้นขอเอาเมียอีกทีได้ไหม”
“อันนี้ก็ไม่ได้”
องศาหัวเราะ เอาเข้าจริงถ้าจะทำ morning sex เขาคงไม่ไหวเพราะร้าวระบบไปทั้งท่อนเลย เมื่อคืนเธอทำอะไรกับเขากันนะ มันรุนแรงถึงขั้นนี้เลยหรือไร องศาจำรายละเอียดไม่ได้เลย ทั้งที่เขาควรจะค่อย ๆ ทำและจดจำช้า ๆ ให้มันตราตรึงอยู่ในหัวใจแท้ ๆ
เขาได้ทำแบบนั้นหรือเปล่านะ
หรือว่าเขาเผลอทำเธอเจ็บ... ก็เขาเมานี่นา
“เมื่อคืนเค้าทำที่รักเจ็บหรือเปล่า” พอคิดว่าตัวเองอาจเผลอครอบครองเธอรุนแรงไปอ้อมกอดนั้นก็กระชับแน่นด้วยรู้สึกผิดจับใจ เซลีนแกล้งทำหน้าสลด คำที่องศาแทนตัวเองว่า ‘เค้า’ มันเริ่มชัดเจนแล้วว่าบ่วงนั้นรัดคอเขาอย่างช้า ๆ
“ร่างกายน่ะไม่เจ็บ แต่ใจนี่สิบี๋”
องศากลืนน้ำลายลงคอ ไม่รู้ทำไมใจเขามันหวิวไหวเมื่อได้รู้ว่าเธอเจ็บ แน่นอนเขาแคร์เซลีน... แคร์ตั้งแต่เมื่อไหร่เขาก็ไม่รู้
“ทำไมเหรอ”
“ก็บี๋เพ้อหาแต่แอ้ม”
เธอบีบน้ำตาออกมาด้วย ครั้งนี้ไม่ใช่แค่หยดเดียวแต่เป็นกระบุง แถมด้วยเสียงสะอื้นนิด ๆ อย่างน่าสงสาร เล่นเอาองศาสลดวูบใจห่อเหี่ยว
“เค้าจำอะไรไม่ได้เลยที่รัก เค้าเมามาก”
“ฮึก...” มือบางยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ “ไม่เป็นไรหรอก เค้าเข้าใจ”
คำว่า ‘เข้าใจ’ ของผู้หญิงองศารู้ดีว่ามันหมายถึง ไม่เข้าใจ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ฆ่ากันให้ตายเสียยังดีกว่า ยิ่งเห็นน้ำตาของเธอมันยิ่งตอกย้ำว่าคำพูดเธอตรงข้ามกับความรู้สึกโดยสิ้นเชิง แต่หญิงสาวคงเลือกจะพูดในสิ่งที่ทำให้เขาสบายใจสินะ
ทำไมเมียเขามันน่ารักแบบนี้...
“ขอโทษนะ” นิ้วใหญ่ไล้น้ำตาออกจากพวงแก้มเนียน “คืนนี้จะแก้ตัวให้ใหม่”
“ห้ามมีชื่อคนอื่นนอกจากชื่อเค้านะ”
“จะครางแต่ชื่อเมียคนเดียวเลย”
หญิงสาวเยาะเขาในใจ แต่รอยยิ้มที่แสดงบนหน้าช่างดูลิงโลดจนเขาตายใจ
“รีบไปอาบน้ำแต่งตัวกันเถอะ จะได้ไปหาอาหารเช้ากินกันก่อนออกไปทำงาน”
“ที่รักจะไปทำงาน?” เขาคิดว่าตัวเองหูฝาด
“อื้อ” เซลีนพยักหน้า “เค้าลาออกมาเป็นแม่บ้าน แต่ในเมื่ออีกไม่นานเค้าต้องหย่ากับบี๋ ก็หมายความว่าเค้าจะไม่มีใครเลี้ยง เค้าก็ต้องยืนด้วยตัวเองให้ได้ ถูกไหม”
องศาไม่มีอะไรจะพูดเพราะเซลีนพูดถูกทุกอย่าง หญิงสาวผละจากอ้อมกอดเขาเดินร่างกายเปลือยเปล่าแต่หันเพียงด้านหลังให้คนเป็นสามีจินตนาการส่วนที่เหลืออย่างแสนเสียดาย
สะโพกงามงอนกลมกลึงเขาจำไม่ได้เลยว่าเคยสัมผัส เอวคอดกิ่วของเธอที่ส่งเสริมให้ส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน ยิ่งตอนที่เซลีนยกมือขึ้นเกล้าผม จิกเท้ากระดกก้นขึ้นมา กอปรกับแสงแดดที่สาดส่องเข้ามามันให้ความรู้สึกราวกับว่านี่คือประติมากรรมงดงาม
เสียดายโคตร ๆ ที่เขาจำอะไรไม่ได้เลย
เซลีนยกยิ้มมุมปาก รอเวลาแขวนคอผัวชั่วที่ตอนนี้บ่วงเริ่มรัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนเรื่องงานเซลีนแค่คิดว่าต้องหาข้ออ้างไม่นอนกับองศาไปเรื่อย ๆ และการทำงานหามรุ่งหามค่ำของหมอศัลย์ฯ ก็ช่วยได้เยอะ ไหนเธอจะคิดถึงงานจนแทบแย่อีก ทั้งยังคิดว่าตัวเองป่วนชีวิตองศาไม่พอเพราะอยู่แค่ที่บ้าน แต่ตอนนี้อยากตะโกนดัง ๆ เลยว่า SUR[1] จ๋า... เซลกลับมาแล้ว
[1] เป็นชื่อย่อแผนกศัลยกรรม ย่อมาจาก surgical
